สาระสุขภาพ
06Sep
2019
เรื่องสิวๆ กับเรื่องที่สาวๆมักกลุ้มใจ เพื่อรับมือป้องกัน และรักษาสิวอย่างถูกวิธี
เรื่องสิวๆ กับเรื่องที่สาวๆมักกลุ้มใจ เพื่อรับมือป้องกัน และรักษาสิวอย่างถูกวิธี
แพทย์หญิงวีรวดี ธรรมธาดา แพทย์สาขาเวชปฏิบัติทั่วไป-ตจวิทยา กล่าวว่า สิวเป็นโรคที่พบบ่อยและเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้ป่วยมาพบแพทย์ สิวเป็นโรคที่มีการอักเสบของหน่วยรูขนและต่อมไขมัน โดยมากเป็นบริเวณหน้า คอ และลำตัวส่วนบน ซึ่งเป็นตำแหน่งที่เต็มไปด้วยต่อมไขมันขนาดใหญ่ พบบ่อยในวัยรุ่น และมักหายไปในช่วงอายุ 20-30 ปี แต่บางคนอาจเป็นเรื้อรัง จนเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ ทั้งนี้ขึ้นกับปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวและประวัติสิวในครอบครัว โดยมีเพียงร้อยละ 15 ที่เป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง

สาเหตุของการเกิดสิว
1. การอุดตันในรูขุมขน
2. การสร้างไขมันเพิ่มขึ้นจากต่อมไขมัน
3. การเพิ่มจำนวนของเชื้อ Propionibacterium acnes (P. acne)
4. การอักเสบ
การรักษาสิว
1. ลดการอุดตันของรูขุมขนด้วยยาที่มีฤทธิ์ละลายสิว
2. ลดจำนวนเชื้อ P. acne ด้วยยาต้านจุลชีพ
3. ลดการสร้างไขมันจากต่อมไขมันด้วยยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมหรืออนุพันธ์ของวิตามินเอชนิดรับประทาน
4. ใช้ยาที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ
แพทย์หญิงวีรวดี ธรรมธาดา แพทย์สาขาเวชปฏิบัติทั่วไป-ตจวิทยา กล่าวเพิ่มเติมว่า ควรวินิจฉัยแยกโรคสิวจาก การอักเสบของรูขุมขน รอยโรคที่คล้ายสิว สิวที่เกิดจากยาหรือการสัมผัสสารเคมี และโรคทางกายอื่นๆ ที่พบสิวแนอาการแสดงร่วม เช่น ภาวะถุงน้ำรังไข่ ภาวะฮอร์โมนเพศชายเพิ่มสูงขึ้น เป็นต้น หลังการรักษาสิวจะเริ่มดีขึ้นในเวลาประมาณ 3 เดือน และ จะดีขึ้นมากในเวลา 4-8 เดือน หลังจากรักษาจนอาการสิวดีขึ้น ควรแนะนำผู้ป่วยให้ใช้ยาต่อเพื่อป้องกันการกลับเป็นซ้ำ ท่านใดมีปัญหาสุขภาพผิวสามารถเข้ารับคำปรึกษาได้ที่ แผนกผิวหนัง โรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ โทร.1719
Share With your friends